ตั้งใจเขียน blog นี้สดุดี ampam (เขาเขียนอย่างนี้บน slide จริงๆ นะ ดูแล้วหมั่นเขี้ยวชะมัด) เมื่อวานที่มาพูดเรื่อง “Building Agile Culture for Any Scale” แต่ด้วยความที่เพลิดเพลินกับการบรรยายที่โคตรจะลื่นไหลของ amp กับกำลังลุ้นวอลเล่ย์บอลชายซีเกมส์อยู่ก็ไม่ได้เก็บประเด็นเท่าที่ควร
สนใจเนื้อหาของ session นี้ไปอ่านได้ที่ blog ของคุณ KANOKON CHANSOM http://chansom.tumblr.com/post/70684701242 ได้เลย
ตัวผมเองกำลังอินกับเรื่องวัฒนธรรมองค์กรมาก เพราะเพิ่งอ่านหนังสือ “ใช้ความสุขทำกำไร” ของ โทนี เช CEO ของ zappos.com จบหมาดๆ
โทนี่ เช บอกว่าสิ่งที่ทำให้ zappos.com ประสบความสำเร็จรวมทั้งผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากทั้งหมดมาได้ก็เพราะวัฒนธรรมองค์กรของพวกเขา ซึ่งสามารถมาสรุปเป็น ค่านิยม 10 ประการ เพื่อบอกเล่าความเป็นตัวตนขององค์กรเขา เป็นสิ่งที่พนักงานของ zappos ปฏิบัติกัน
1. Deliver WOW Through Service
2. Embrace and Drive Change
3. Create Fun and a Little Weirdness
4. Be Adventurous, Creative, and Open-Minded
5. Pursue Growth and Learning
6. Build Open and Honest Relationships with Communication
7. Build a Positive Team and Family Spirit
8. Do More with Less
9. Be Passionate and Determined
10. Be Humble
ลองไปอ่านดูครับ
กลับมาที่ session ของ ampam (ฮึมมมม) amp เล่าให้ฟังว่า culture กับ rule นั้นต่างกัน และบางทีก็ย้อนแย้งกัน บริษัทบางแห่งมีกฎว่าต้องมาทำงาน 8 โมงเช้าถ้ามาช้าโดนหักเงิน แต่พวกเขาก็มีวัฒนธรรมการมาสาย หลายๆ คนมาสายเป็นเรื่องปกติ
บางทีเราก็คุย(นินทา + ต่อว่า)เรื่องเกี่ยวกับหัวหน้าตอนพักกลางวัน แทนที่เราจะไปคุยกับเขาตรงๆ เวลาคนใหม่ๆ เข้ามาในทีมหรือมาในบริษัท เห็นเราคุย ตำหนิเจ้านายตอนพักกินข้าวกลางวันซะเป็นปกติ คุณคิดว่าเขาจะเข้าไปคุยกับหัวหน้าตรงๆ ในเวลาทำงานไหมว่าหัวหน้าทำอะไรไม่ดีบ้าง?
วัฒนธรรมที่แข็งแกร่งนั้นมันจะคล้ายๆ หมวกคัดสรร คือมันจะเลือกคนที่เข้ากับวัฒนธรรมนั้นๆ ไว้ แล้วมันก็จะถีบคนที่ไม่เข้ากับวัฒนธรรมนั้นๆ ออกไปด้วยตัวมันเอง (ไม่ว่าวัฒนธรรมนั้นจะดีหรือไม่ดี)
ผมชอบอันนึงที่ amp เล่า (แต่ขออภัยที่ปะติดปะต่อไม่ได้ว่าทำไม amp พูดโยงเรื่องนี้กับเรื่องอะไร) เขายกตัวอย่างว่ามีอยู่วันนึงน้องในทีมอยากจะเอา docker มาใช้ ก็เข้าไปคุยกับเบน (เจ้าของบริษัท) ว่า docker มันดีอย่างนู้นดีอย่างนี้ เบนก็ทำท่าสงสัย ตั้งคำถามต่างๆ นานาเกี่ยวกับ docker จนน้องคนนั้นถอดใจ … แล้วก็คิดว่าเบนคงไม่อยากให้ใช้ docker
วันนึง amp คิดว่า ถ้ามี docker เนี่ยมันจะน่านำไปใช้มาก ก็เลยไปหาน้องคนนั้นว่าช่วยทำให้หน่อย น้องเขาก็เลยบอกกับ amp ว่าเบนไม่ให้ใช้ amp ก็สงสัยว่าเบนเนี่ยนะไม่ให้ใช้ ก็เลยลากน้องมาดู amp แชตกับเบนเดี๋ยวนั้น
พอ amp บอกกับเบนว่าอยากจะใช้ docker เบนก็ตอบกลับมาว่าเขาไม่อยากเชื่อเลย docker มันดีจริงๆ เหรอเนี่ย amp ก็เลยตอบเบนไปว่า ถ้าใช้ docker มันจะทำให้ flow ของ continuous delivery ดีขึ้น …. สิ่งที่เบนตอบกับมาคือ … เอาเลย ทำเลย!
amp อธิบายเพิ่มเติมว่าจะเห็นว่าสิ่งที่เขาคุยกับเบน เราคุยกันด้วย Goal (เป้าหมาย) วิธีการ solution ของแต่ละคนอาจจไม่เหมือนกัน แต่ถ้า goal เดียวกันมันคุยกันแล้วจบกันได้ง่าย อย่างเบน ตอนแรกเบนไม่มั่นใจว่า docker ดีแค่ไหน (ถึงตอนนี้ก็อาจจะยังไม่มั่นใจ) แต่เขาก็มี goal เดียวกันคือมันทำให้ process การทำงานดีขึ้น … เขาก็ให้ทำ
amp ก็พูดได้สนุกเหมืนอเคย พี่ pam ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม 🙂
ปล. amp หลุดคำหยาบครั้งแรกเมื่อเริ่มต้น seesion ไปเพียง 4 นาที 😛
Theerasak Maneeneim 